ชาวมีวนาร่วมใจ สร้างฝายรักษาความชุ่มชื้นให้กับผืนป่า

ชาวมีวนาร่วมใจ
สร้างฝายรักษาความชุ่มชื้นให้กับผืนป่า หมู่บ้านห้วยไคร้ จ.เชียงราย

เข้าฤดูฝนอย่างเต็มตัว กิจกรรมที่กลุ่มเกษตรกรกาแฟอินทรีย์รักษาป่ามีวนา พร้อมกับหน่วยงานภาครัฐ และพี่น้องในชุมชนในพื้นที่ร่วมกันทำอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผืนป่า คือการสร้างฝายชะลอน้ำ

ซึ่งครั้งนี้ได้ร่วมกันสร้างฝายขึ้นที่บ้าน ห้วยไคร้ จ.เชียงราย เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง แก้ปัญหาต้นน้ำแห้งเหือด ใช้เป็นแหล่งเก็บน้ำเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผืนป่า และเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่า โดยใช้วัสดุในพื้นที่ทำฝายชนิดกึ่งถาวร จำนวน 3 หลัง ซึ่งอายุฝายชนิดนี้ จะอยู่ได้ประมาณ 3 – 5 ปี

ฝายชนิดนี้มีประโยชน์มาก ตรงที่เป็นฝายที่ขนาดไม่ใหญ่ ความสูงไม่เกิน 80 ซ.ม.  จึงไม่ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและระบบนิเวศทางน้ำ ทั้งยังเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำขนาดเล็ก รักษาความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่บริเวณโดยรอบ 

พื้นที่การจัดทำฝายครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้แก่

– ฝายชะลอน้ำพื้นที่บ้านห้วยไคร้ บริเวณหัวน้ำ/ต้นน้ำ

– ฝายชะลอน้ำพื้นที่บ้านห้วยมะเกลี้ยง บริเวณปลายน้ำ

– ฝายชะลอน้ำพื้นที่บ้านห้วยมะเกลี้ยง บริเวณกลางชุมชน

นอกจากทุกความร่วมมือทั้งเกษตรกร หน่วยงานภาครัฐ พี่น้องในพื้นที่ ที่เป็นกำลังสำคัญในการสร้างฝายเพื่อดูแลผืนป่าในครั้งนี้แล้วนั้น ลูกค้าของมีวนาทุกท่านก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกันดูแลผืนป่าผ่านการสนับสนุนสินค้ามีวนา ช่วยทำให้คนและป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

 

 

NocNoc จับมือ ปันกัน ร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ฉลองวันเกิดครบ 5 ปี กับ แคมเปญ NocNoc ปันให้…ปันกัน

NocNoc จับมือ ปันกัน ร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน
ฉลองวันเกิดครบ 5 ปี กับ แคมเปญ NocNoc ปันให้…ปันกัน

NocNoc ศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านออนไลน์ ฉลองวันเกิดครบ 5 ปี NocNoc Make a Wish Foundation จับมือ “ร้านปันกัน” โดยมูลนิธิยุวพัฒน์ จัดกิจกรรม NocNoc ปันให้…ปันกัน ชวนลูกค้าและพนักงานร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ด้วยการบริจาคสิ่งของสภาพดีให้ร้านปันกัน นำไปเปลี่ยนเป็นเงินทุนการศึกษาแก่เด็ก ๆ ที่ขาดโอกาส ใน มูลนิธิยุวพัฒน์ พิเศษ! สำหรับผู้ที่นำมาบริจาคที่ร้านปันกันทุกสาขา รับเลย NocNoc Voucher มูลค่า 100 บาท ช้อปของแต่งบ้านบนแพลตฟอร์ม NocNoc (ไม่มีขั้นต่ำ) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2567 

นายอนุพงศ์ ทะสดวก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าและพาณิชย์ บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือ NocNoc เผยว่า NocNoc  มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจในระยะยาวเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน คือการเป็น Home and Living Destination ที่พร้อมช่วยให้ทุกคนในอาเซียน เติมเต็มทุกพื้นที่ในการใช้ชีวิตได้อย่างที่ฝัน หนึ่งในแผนดำเนินธุรกิจในระยะยาว เพื่อสร้างความยั่งยืนที่มีประสิทธิผล คือการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการสร้างสมดุลที่ดีให้สังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ผ่าน Ecosystem ที่เรามีร่วมกัน เช่น ระบบเทคโนโลยี (AI Ecosystem), บุคลากร เป็นต้น 

การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ ซี่งเป็นธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) อย่าง “ปันกัน” จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ NocNoc เติบโตไปพร้อมกับสังคมอย่างยั่งยืนมากขึ้น   โดยมุ่งเน้นให้ผู้ที่มี่ส่วนเกี่ยวข้องใน Ecosystem ของ NocNoc ทั้งลูกค้า พนักงาน ร้านค้า พาร์ทเนอร์ ได้มีส่วนร่วมในการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันร่วมกัน ภายใต้แคมเปญ NoNoc ปันให้ … ปันกัน” 

ด้านนางฐาปนีย์ สินาดโยธารักษ์ ผู้อำนวยการร้านปันกัน โดย มูลนิธิยุวพัฒน์ กล่าวว่า NocNocและปันกันมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานที่สอดคล้องกัน คือต้องการทำให้ทุกความฝันเป็นจริงได้ การร่วมมือกับ NocNoc ซึ่งเป็น Home and Living Destination ในครั้งนี้จะช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็ก ๆ ได้เรียนต่อจนจบตามที่ฝันและตั้งใจ อีกทั้งแคมเปญนี้ยังช่วยให้ปันกันขยายพื้นที่การมีส่วนร่วมของผู้ปันในกลุ่มสินค้า Home and Living ได้กว้างมากขึ้นด้วย

NocNoc ปันให้…ปันกัน นอกจากจะเป็นแคมเปญที่ผลักดันในการช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ NocNoc ตั้งใจชวนให้ทุก ๆ บ้านได้แบ่งปันเวลาในการจัดบ้าน เคลียร์บ้าน และคัดเลือกสิ่งของสภาพดีที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วมาบริจาคเพื่อเปลี่ยนเป็นทุนการศึกษา อาทิ เฟอร์นิเจอร์  เครื่องใช้ไฟฟ้า  เครื่องครัว ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หมวก หนังสือ ฯลฯ (คลิกอ่าน ปันอะไรได้บ้าง)  ร่วมบริจาคได้แล้ววันนี้ – 31 ธันวาคม 2567 ที่ร้านปันกัน ทุกสาขา(คลิกดูสาขาปันกัน) พร้อมรับ NocNoc Voucher มูลค่า 100 บาท สำหรับใช้ซื้อสินค้าและบริการเรื่องบ้านบนแพลตฟอร์ม NocNoc เมื่อช้อปไม่มีขั้นต่ำ  NocNoc Voucher มีจำนวนจำกัด โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันกับโครงการร้านปันกัน โดย มูลนิธิยุวพัฒน์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายงานพัฒนาธุรกิจและสร้างการมีส่วนร่วม โทร. 02 301 1021/ adminpankan@ybf.premier.co.th / Line @pankansociety

“Colour to Table x Limited education” โดยกลุ่มแฟนคลับ พีพี กฤษฏ์ ร่วมแก้ปัญหาสังคมสร้างโอกาสทางการศึกษาอย่างยั่งยืน

"Colour to Table x Limited education” โดยกลุ่มแฟนคลับ พีพี กฤษฏ์
ร่วมแก้ปัญหาสังคมสร้างโอกาสทางการศึกษาอย่างยั่งยืน

เพราะการแก้ไขปัญหาสังคมขนาดใหญ่จะเกิดผลสำเร็จได้ต้องเกิดจากพลังของความรักความร่วมมือเช่นเดียวกับ “โครงการ Colour to Table”  

ตัวแทนกลุ่มแฟนคลับศิลปินพีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ชื่อ “โปรเจกต์ พีพี กฤษฏ์ (PROJECTPPKRITT)” ร่วมมอบเงินบริจาค 43,485 บาท จากการเชิญชวนกลุ่มแฟนคลับของศิลปิน เข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาสังคม ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสทางการศึกษาอย่างยั่งยืน กับแคมเปญ “Colour to Table” ที่ร่วมกับ Limited education ด้วยการบริจาคพร้อมรับของที่ระลึกเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดศิลปิน  โดยหลังจบแคมเปญ เงินบริจาค 63,985 บาทหลังหักค่าใช้จ่ายจากการผลิตของที่ระลึก ได้นำมามอบให้กับโครงการ FOOD FOR GOOD มูลนิธิยุวพัฒน์ เพื่อเป็นทุนในการพัฒนางานโภชนาการในโรงเรียนต่อไป

ขอขอบคุณทุกพลังความรักและพลังน้ำใจ ของกลุ่มแฟนคลับพีพี กฤษฎ์ ที่ร่วมสร้างสรรค์แคมเปญสุดพิเศษในนามศิลปิน เป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ของสังคมได้อย่างยั่งยืน

ท่านที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สามารถเข้ามาร่วมมือกับร้อยพลังการศึกษาได้ เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ขาดโอกาสให้ได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เบอร์  02-301-1117 อีเมล tcfe@ktf.premier.co.th

มูลนิธิเพื่อคนไทย สนับสนุนทุนการศึกษาและการดำเนินงาน สถาบันพัฒนานโยบายสาธารณะ ม.เชียงใหม่

มูลนิธิเพื่อคนไทย สนับสนุนทุนการศึกษาและการดำเนินงาน
สถาบันพัฒนานโยบายสาธารณะ ม.เชียงใหม่

กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพื่อเสริมสร้างศักยภาพคนรุ่นใหม่ และพัฒนาพลังพลเมืองที่มีส่วนร่วมเพื่อส่วนรวม (Active Citizen) โดยเมื่อเร็วๆ นี้ มูลนิธิเพื่อคนไทย ได้สนับสนุนเงินจำนวน 15 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาและ สนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายในระยะเวลา 5 ปี  

โดยศาสตราจารย์ ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอร ภู่เจริญ ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายสาธารณะ รับมอบเงินจาก คุณวิเชียร พงศธร มูลนิธิเพื่อคนไทย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ห้องรับรอง ม..ปิ่น มาลากุล สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ปันกัน ขอขอบคุณ ลาลามูฟ ผู้ใหญ่ใจดีที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “สังคมแห่งการแบ่งปัน”

ปันกัน ขอขอบคุณ ลาลามูฟ ผู้ใหญ่ใจดี
ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “สังคมแห่งการแบ่งปัน”

จากกิจกรรมในเดือน ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ร้านปันกันได้ร่วมกับ ลาลามูฟ ทำแคมเปญเคลียร์บ้าน ต้อนรับปีใหม่มอบส่วนลดค่าบริการ 50% (สูงสุด 85 บาท) สำหรับผู้ที่ต้องการขนส่งสิ่งของบริจาคไปยังคลังปันกัน   โดยแคมเปญได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี  ลาลามูฟยังคงสานต่อความร่วมมือ ด้วยการสนับสนุนการขนส่งสินค้าแบ่งปันจากคลังปันกันไปยังร้านปันกัน 2 สาขา ได้แก่ สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว และสาขาเดอะไนน์ พระราม 9 สัปดาห์ละ 4 รอบ เพื่อร่วมช่วยเหลือการดำเนินงานของปันกันในการนำสิ่งของบริจาคสภาพดีไปเปลี่ยนเป็นโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนทุนในมูลนิธิยุวพัฒน์  โดยได้เริ่มต้นบริการแล้วเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา

สำหรับผู้ที่ต้องการนำสิ่งของบริจาคให้ปันกัน สามารถใช้บริการกับลาลามูฟ ภายใต้แคมเปญเคลียร์บ้าน ต้อนรับปีใหม่  พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 50% ได้ตั้งแต่วันนี้พฤษภาคม 2567  อ่านรายละเอียดได้ที่ https://www.lalamove.com/th-th/pankan  

หรือโทร 02-301-1096, 081-903-6639

ปันกัน ขอขอบคุณ ลาลามูฟ  ผู้ใหญ่ใจดีที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมแห่งการแบ่งปันในครั้งนี้  สำหรับองค์กรหรือหน่วยงานที่สนใจสร้างความร่วมมือกับปันกัน ติดต่อได้ที่ งานพัฒนาธุรกิจและสร้างการมีส่วนร่วม โครงการปันกัน  โทร. 02 301 1021  https://lin.ee/2mIchE2

Help You,Help Me ปีที่ 5 คึกคัก “เทลสกอร์” จับมือมูลนิธิเพื่อ “คนไทย” มอบรางวัล “สื่อบุคคล” ช่วยภาคสังคม

“Help You,Help Me” ปีที่ 5 คึกคัก “เทลสกอร์” จับมือมูลนิธิเพื่อ “คนไทย”
มอบรางวัล “สื่อบุคคล” ช่วยภาคสังคม

เทลสกอร์ร่วมกับมูลนิธิเพื่อคนไทยและร้อยพลังสร้างสังคมดีประกาศผลรางวัล 7 แคมเปญเพื่อสังคมที่ได้รับรางวัลสื่อบุคคลโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แก่ผู้ส่งข้อเสนอโครงการร่วมกิจกรรม “Help You, Help Me : Influencer for Changeต่อเนื่องสู่ปีที่ 5 โดยในปีนี้มี 25 แคมเปญฯ เข้ารอบพิจารณา และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคัก ทั้งจากภาคสังคม ภาคธุรกิจและภาคสื่อกว่า 30 องค์กร

โครงการ Help You,Help Me ภายใต้แนวคิด Influencer for Change โดย Tellscore หนึ่งในผู้นำด้านการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ เกิดขึ้นด้วยคุณค่าหลักคุณช่วยสังคม ให้เราช่วยคุณด้วยความเชื่อว่า พลังของอินฟลูเอนเซอร์/ครีเอเตอร์ สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในประเด็นทางสังคมได้อย่างมีนัยยะสำคัญ วัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้พลังการสื่อสารของอินฟลูเอนเซอร์/ครีเอเตอร์ บรรเทาปัญหาสังคมที่หลากหลายผ่านคอนเทนต์ที่มีพลังและความคิดสร้างสรรค์ และเพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านการสื่อสารเพื่อภาคสังคมให้อินฟลูเอนเซอร์/ครีเอเตอร์ได้เติบโตไปกับสังคมไทยที่ดีขึ้นด้วย 

ทั้งนี้ แคมเปญที่ได้รับรางวัลของปี 2567 จะเป็นโครงการที่ผ่านการเลือกสรรโดยคณะกรรมการจากเทลสกอร์ว่ามีความเหมาะสมที่จะใช้สื่อบุคคลสื่อสารระดมการมีส่วนร่วมจากประชาชน ในปีนี้มี 7 แคมเปญเพื่อสังคมที่ได้รับรางวัลมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1.โครงการ Hmong Cyber Season 5  (Hmong Cyber Social Enterprise )  2. โครงการ ต้องแฉ MustShare แคมเปญ สังคมยกมือ (แฮนด์วิสาหกิจเพื่อสังคม)3. โครงการ No Tree No Breath No life (มูลนิธิรักษ์ไม้ใหญ่) 4. โครงการ Dao Ethical Gifts  (Dao Ethical Gifts) 5. โครงการ ทุนการศึกษา (มูลนิธิยุวพัฒน์) 6. โครงการ Saturday School  (มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์) 7. โครงการ Change Journey  ( สมดุลย์ฯ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาว และพัฒนาสมดุลชีวิตองค์รวม) และรางวัลปีนี้พิเศษตรงที่จะเป็นสื่ออินฟลูเอนเซอร์/ครีเอเตอร์ที่มีจำนวนผู้ติดตามหลักแสนคน (Medium Influencer/Creator) รางวัลละ 3 สื่อบุคคล อีกทั้งยังเน้นช่องทาง Tiktok  เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงกลุ่มผู้ติดตามใหม่ๆ ให้กับภาคีภาคสังคมให้มากที่สุด 

คุณวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อคนไทย กล่าวว่า การที่โครงการนี้มีความต่อเนื่องสู่ปีที่ 5 ก็เพราะเกิดการยื่นมือเข้ามาช่วยซึ่งกันและกัน  แน่นอนว่า มีองค์กร บุคคลที่ทำงานด้านสังคมอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงโดยใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญที่มีให้เกิดประโยชน์ และประสานเชื่อมโยงกัน   

ผมคิดว่า ทุกคนสามารถเป็นตัวคูณในการแก้ไขปัญหาสังคมได้ ดังที่เทลสกอร์ได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการจับคู่สื่อบุคคลให้มาช่วยภาคสังคม ขอขอบคุณทุกองค์กรที่หยิบยื่นทรัพยากรที่มีมาช่วยกันพัฒนาและยกระดับสังคมให้เข้มแข็งขึ้น เป็นสังคมที่ดีแก่คนถ้วนหน้าประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อคนไทยกล่าว

คุณสุวิตา จรัญวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทลสกอร์ จำกัด กล่าวว่า ปัญหาสังคมมีหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ผู้สูงวัย คนพิการ หนี้ครัวเรือน หรือสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ขณะเดียวกันมีหน่วยงานภาคสังคมที่กำลังทำหน้าที่เป็นแนวหน้าในการชักชวนผู้คนมาร่วมกันแก้ไขปัญหาเหล่านั้น แม้ไม่มีความพร้อมในทุนทรัพย์ หรือองค์ความรู้ที่จะช่วยสร้างการรับรู้และกระจายผลงานให้เกิดการมีส่วนร่วมในวงกว้าง เทลสกอร์จึงขอเติมเต็มช่องว่างที่หายไปด้วยการนำความชำนาญด้านอินฟลูเอนเซอร์ มาร์เกตติ้งเข้าไปเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนในการช่วยเหลือสังคมให้ดีขึ้น

สื่อบุคคลในระบบเทลสกอร์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางสื่อสารแคมเปญเพื่อสังคมให้เข้าถึงประชาชนทั่วไป จนเกิดกระบวนการทำซ้ำด้านความดี และผลกระทบทางสังคมหรือการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นหลังกระบวนการสื่อสาร ไม่ว่าจะสื่อสารเพื่อช่วยภาคสังคมระดมทุน หรือเชิญชวนประชาชนมาเป็นอาสาสมัคร หรือมาร่วมกิจกรรมคุณสุวิตากล่าว

คุณสุดาพร สิงหเทพธาดา ผู้จัดการ Dao Ethical Gifts ธุรกิจเพื่อสังคมที่มุ่งเน้นเสริมพลังผู้หญิงเปราะบาง หนึ่งในผู้ได้รับรางวัลกล่าวว่ารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมกิจกรรมนี้เพราะต้องการแรงสนับสุนจากสื่ออินฟลูอินเซอร์ที่มีใจมากช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกให้สังคมและขยายผลงานพัฒนาความยั่งยืนและเสริมพลังผู้หญิงกลุ่มเปราะบางด้วยการเชิญชวนสังคมมาอุดหนุนสินค้าฝีมือแม่ๆ เหล่านี้ โครงการ Help You,Help Me ไม่ใช่การแข่งขัน เพราะผู้นำเสนอโครงการทุกท่านต่างเป็นผู้ชนะตัวจริงด้วยคุณค่าที่ทุกคนได้สร้างประโยชน์ให้สังคมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

คุณอรยา สูตะบุตร ผู้ร่วมก่อตั้ง Big Trees เปิดใจว่า รู้สึกยินดีที่ครั้งนี้ Big Trees ได้รางวัลเพราะคณะทำงานตั้งใจมาก มีการปรับแก้สไลด์นำเสนอและซ้อมกันหลายรอบถึงขนาดว่าถ่ายคลิปแล้วดูตัวเองด้วยว่าต้องปรับปรุงอย่างไร และเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มาจากการได้เข้าเวิร์คชอปหัวข้อการนำเสนอโครงการที่ดีจากงาน Good Society  Day ที่ผ่านมา

สำหรับอินฟลูเอนเซอร์ที่มาร่วมกิจกรรม Help You,Help Me ปีนี้ อาทิ คุณศศิภัทร์  อิทธิโสภณพิศาล (TikTok: ive_sasi), คุณปริญญาทิพย์  แก้วบัวดี (TikTok: sstangbah), คุณณัฐรดา สุขสุธรรมวงศ์ (TikTok: krutookta_natrada), คุณยุวดี   ปิ่นทองทิพย์  (Facebook: January Pinthongtip) และคุณอัญชิษฐา เรียบร้อย (Facebook: Anchittha Riabroi) รวมทั้งเครือข่ายภาคธุรกิจที่เข้ามาร่วมมือเป็นปีแรก ประกอบด้วย บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล, COBE by SC Asset, บมจ.ซีพี ออลล์, ศูนย์การค้าสยามพารากอน และ SCBX NEXT TECH 

ตลอดระยะเวลา 4 ปีของการจัดกิจกรรม Help You, Help Me มีหน่วยงานภาคสังคมเข้าร่วมเสนอโครงการมากกว่า 100 โครงการ และมีโครงการที่ได้รับสนับสนุนสื่ออินฟลูเอนเซอร์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายไปแล้วกว่า 24 โครงการ มีอินฟลูเอนเซอร์ร่วมผลิตคอนเทนต์เพื่อช่วยสื่อสารขยายผลไปกว่า 1,200 คน สำหรับใน ปี 2567 นี้ ได้รับความสนใจจาก 25 ภาคีภาคสังคมร่วมส่งนำเสนองาน และมีองค์กรเข้าร่วมกิจกรรมนี้กว่า 30 องค์กร นอกจากนั้น ยังมีผู้นำทางความคิด เช่น ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอรัปชัน (ประเทศไทย) รวมทั้ง คุณกาวิน ควงปาริชาต ผู้ร่วมก่อตั้ง DOTS COFFEE ร้านกาแฟที่มีผู้พิการทางสายตาเป็นบาริสต้ามาแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้รับสนับสนุนสื่อจากโครงการนี้ด้วย

สามารถติดตามรายละเอียดโครงการเพื่อสังคมที่ร่วมกิจกรรม Help You,Help Me เพื่อยื่นมือเข้ามาช่วยกันอีกแรง ได้ที่ https://helpyouhelpme.tellscore.com/  หรือรับชมวิดีโอ https://www.youtube.com/watch?v=ruhrQJnf91s

Good Society Day 2024 รวมพลคนสร้างสังคมดี

ขอบคุณทุกคนทีมีส่วนร่วมกับงาน
Good Society Day 2024 รวมพลคนสร้างสังคมดี
เพราะทุกคนคือ Dots เล็กๆ ที่จะเชื่อมต่อเป็นพลังเพื่อขับเคลื่อนสังคมของเราให้ดีขึ้น

งาน Good Society Day 2024 งานที่ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อจุดพลังให้คนภาคสังคมมีใจอีกครั้ง  งานนี้มีทั้งหน่วยงานภาคสังคม องค์กรเอกชน นักศึกษา และประชาชนผู้ที่สนใจและต้องการขับเคลื่อนสังคมของเราให้ดีขึ้นเข้าร่วมงานพร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกิจกรรมดีดีมากมาย  

โดย คุณวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการ มูลนิธิเพื่อคนไทย กล่าวเปิดงานว่าหากย้อนหลังไป 11 ปีที่แล้วเป็นครั้งแรกที่เราได้ร่วมกันจัดงานคนไทยขอมือหน่อย  ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเชิญคนไทยในสังคม มาช่วยกันสร้างสังคมดีให้กับประเทศไทย วันนี้เป็นครั้งที่ 8 ที่เราจัดงานคนไทยขอมือหน่อย ที่ได้เชิญชวนคนในภาคส่วนต่างๆ มาร่วมมือกัน และพัฒนาให้สังคมของเราเป็นสังคมที่น่าอยู่ ธีมการจัดงานวันนี้ยังสอดคล้องเหมือนเดิมจากจุดตั้งต้น เป็นการรวมพลังสร้างสังคมที่ดีสำหรับทุกคน ทุกท่านที่นี้ก็เป็น Active Citizens หลายท่านทำงานมาหลายสิบปี ซึ่งก็คงมีคำถามว่า แล้ววันนี้สังคมดีขึ้นหรือยัง 

อย่างไรก็ตาม สังคมที่ดีในความหมายของแต่ละคนก็มีนิยามต่างกันไป มากน้อยแตกต่างกัน  หลายท่านคงทราบว่าสังคมที่ดีในแง่มุมสำหรับเราก็อาจไม่ได้ดีสำหรับทุกคน และคนที่คิดว่าสังคมยังไม่ดีสำหรับเขาก็คงมีอยู่มาก เป็นพื้นฐานของความเข้าใจถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำที่อยู่ในสังคม ที่มีทั้งปัญหา ความท้าทาย อนาคตของชาติคนรุ่นใหม่ การศึกษา การอบรมบ่มเพาะ การติดอาวุธให้เขาเป็นคนที่เข้มแข็ง พร้อมจะดูแลสังคมต่อไปในอนาคต เรายังทราบถึงความท้าทายของประเด็นด้านสุขภาพ สาธารณสุข ปัญหา PM 2.5 เป็นเรื่องที่เราก็มีความเข้าใจกับมันมากขึ้น สอดคล้องกับการดูแลสิ่งแวดล้อม เรื่องมลภาวะต่างๆ  ยังมีปัจจัยเรื่องการขาดธรรมาภิบาล หลักนิติธรรม ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคม

เรื่องต่างๆ เหล่านี้ สะท้อนให้เห็นว่าสังคมยังดีไม่ถ้วนหน้า หลายท่านหลายองค์กรที่ร่วมงานกัน ยังคงมุ่งมั่นร่วมกันสร้างสังคมดีกันอยู่  เชื่อว่าปัญหาและความท้าทายข้างต้นนั้นคงไม่ได้จบภายใน 1-2 ปีข้างหน้า เป็นเรื่องที่เรายังคงต้องให้ความสำคัญ เราคงได้พบกัน มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน มีโอกาสที่จะสร้างความร่วมมือ เพราะภารกิจขนาดใหญ่ต้องการความร่วมมือ เช่นเดียวกับคอนเซปต์งานครั้งนี้ที่เป็นภาพวงกลมของความหลากหลายต่างๆ ในสังคม เป็นจุดต่างๆ ที่ต้องอาศัยความเชื่อมโยงกัน และจำเป็นต้องมีการทับซ้อนกัน หรือเกี่ยวกัน เป็นตัวแทนของส่วนประกอบต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคม ผู้ที่มีส่วนได้เสียในสังคมที่จะต้องมีโอกาสในการเชื่อมโยงกัน เสริมสร้างพลังของสังคมดีให้ทั่วถึง ลดความเหลื่อมล้ำ ให้เป็นสังคมดีของทุกคนต่อไป 

สามารถรับชมวิดีโอย้อนหลังได้ที่ 

Youtube :  https://www.youtube.com/@goodsocietythailand4887 

Facebook : https://www.facebook.com/goodsocietythailand 

บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ ได้รับรางวัล “Key Project Success Award” จากงาน Huawei Thailand Fusion Ecosystem Solar Summit 2024

บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ ได้รับรางวัล
“Key Project Success Award”
จากงาน Huawei Thailand Fusion Ecosystem Solar Summit 2024

บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ ที่มีจุดเริ่มต้นของการดำเนินธุรกิจ จากการตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่นับวันถูกทำลายและใช้อย่างสิ้นเปลือง  จึงส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานสะอาดอย่างรู้คุณค่ามาโดยตลอด 

บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ ได้รับรางวัล “Key Project Success Award”   จากงาน Huawei Thailand Fusion Ecosystem Solar Summit 2024  เป็นการตอกย้ำความสำเร็จของบริษัทฯ ในการร่วมมือพัฒนาโครงการที่สำคัญ ด้วยแนวคิดของการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทางสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ Floating Solar ขนาดใหญ่ โครงการนำร่องการใช้ Smart PV Optimiser ในโครงการ Rooftop ทั้งกลุ่ม C&I และ Residential ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนาน กับการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของธุรกิจพลังงานสะอาด และความพร้อมของทีมบริการหลังการขายอย่างครบวงจร 

และเป้าหมายในปีนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการสำคัญอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้บริการครบวงจรกับทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงานสะอาดได้ง่าย ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

บมจ. พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ ร่วมสนับสนุนสื่อการเรียนการสอน เพื่อโรงเรียนในโครงการร้อยพลังการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์

บมจ. พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ ร่วมกับ บริษัท เติมเนเจอร์ อินดัสตรี้ จำกัด
ร่วมสนับสนุนสื่อการเรียนการสอน
เพื่อโรงเรียนในโครงการร้อยพลังการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์

การสร้างโอกาสทางการศึกษาจะช่วยพัฒนาให้เด็กไทยได้รับความรู้ ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและ

พัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กไทย ให้เข้าถึงสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ

บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด มหาชน และ บริษัท เติมเนเจอร์ อินดัสตรี้ จำกัด จึงได้ร่วมเป็นคุณโอกาสร่วมสนับสนุนอุปกรณ์สื่อโทรทัศน์ เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน สำหรับนักเรียน และคุณครูโรงเรียนบ้านสบเตี๊ยะ จังหวัดเชียงใหม่ โดย คุณพรศักดิ์ สินคณารักษ์ และ คุณปัทมา ศรีอริยนันท์ ได้ร่วมส่งมอบให้กับโรงเรียนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา  

เพราะทุกการร้อยพลังเพื่อสร้างสังคมดี จากคนในสังคม จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะส่งผลให้เยาวชนและสังคมได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืน 

ชาวพรีเมียร์สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิฯ ได้ที่
www.yuvabadhanafoundation.org

TDRI EIS’s Exclusive Briefing on “Sustainability Can Companies be both Sustainable and Profitable?

คุณวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทพรีเมียร์
ร่วมแสดงมุมมองการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน บนเวที
TDRI EIS’s Exclusive Briefing on “Sustainability:
Can Companies be both Sustainable and Profitable?

เวที  TDRI EIS’s Exclusive Briefing on “Sustainability: Can Companies be both Sustainable and Profitable?”      ที่จัดขึ้นโดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI)  โดยภายในงานได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน  โดยคุณวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนในงานว่า 

ในอดีตจนถึงปัจจุบัน การสร้างกำไรกับการสร้างความยั่งยืน มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ  ซึ่งปัจจัยที่เป็นตัวเร่งให้สองสิ่งนี้เดินไปในทิศทางเดียวกันได้ คือสัญญาณมากมายที่เกิดขึ้น ทั้งภัยพิบัติจำนวนมาก  อีกทั้งปัญหาที่เราประสบพบเห็นในการดำเนินธุรกิจ ทั้งเรื่อง การศึกษาของไทย, ปัญหาเรื่อง PM 2.5,  การขาดธรรมาภิบาล,  เรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ที่ส่งผลกระทบต่อเราเป็นอย่างยิ่ง  หากธุรกิจยังมองว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องของฉัน เรื่องของธรรมาภิบาล ไม่ใช่เรื่องของฉัน ก็จะทำให้ปัญหาแหล่านี้มีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น 

การสร้างความเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่นั้น ทั้งกลุ่มธุรกิจและผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่ทั้งคู่ค้า   ลูกค้า  และพนักงาน คือคนสำคัญที่จะเป็นผู้มาสนับสนุนให้เกิดขึ้น  และเชื่อว่าในอนาคตจะดีขึ้นไปเรื่อย ๆ  ศักยภาพของทางธุรกิจในการเป็นผู้เล่น นอกเหนือจากตัวเราเอง เราก็ต้องจัดการเรื่องการใช้พลังงาน การดูแลพนักงานให้ดี ธุรกิจก็จะมีศักยภาพมากขึ้นเป็นอย่างยิ่ง จึงอยากให้เห็นความสำคัญของการเป็นผู้ที่ยื่นมือออกไปช่วยทำให้ระบบนิเวศหรือปัจจัยแวดล้อมที่เราทำธุรกิจกันอยู่ให้เข้มแข็งขึ้น ลดความเสี่ยงต่างๆ ที่เราเผชิญกันอยู่ เชื่อว่าหากทุกคนร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาสังคม ซึ่งปัจจุบันมีโมเดลต่างๆ  ที่เป็นเครื่องมือให้เกิดการมีส่วนร่วมได้มากมาย  ทั้งเรื่องธรรมาภิบาล  ทุจริตคอร์รัปชัน  การศึกษา ความเหลื่อมล้ำ เราสามารถยื่นมือออกไปเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขได้ 

สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้พูดเพียงอย่างเดียว ในทางปฏิบัติ ธุรกิจต้องไม่ไปทำลาย ทำร้ายสิ่งแวดล้อม เราต้องดูแลรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน เราก็ต้องพร้อมที่จะลงทุน ลงแรง ทรัพยากรเงิน ทรัพยากรมนุษย์ ที่เรามีศักยภาพหยิบยื่นไปทำให้ระบบนิเวศเราดีขึ้น สมบูรณ์ขึ้น

แทนที่จะถามว่าความยั่งยืนกับกำไรไปด้วยกันได้ไหมน่าจะถามว่ากำไรจะคงอยู่ได้ไหม ถ้าความยั่งยืนไม่เกิดขึ้น

This site is registered on wpml.org as a development site.