มูลธินิยุวพัฒน์ชวนคนใจดีมอบอาชีพให้นักเรียนอาชีวะ กับโครงการ The Big Give… การให้อาชีพคือการให้ที่ยิ่งใหญ่

โครงการ The Big Give

มูลธินิยุวพัฒน์ชวนคนใจดีมอบอาชีพให้นักเรียนอาชีวะ
กับโครงการ The Big Give... การให้อาชีพคือการให้ที่ยิ่งใหญ่

ระบบ อาชีวศึกษา คือสายการเรียนที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการฝึกฝนทักษะให้ตรงกับอาชีพที่อยากทำ จบมาแล้วสามารถไปประกอบอาชีพจริงทันทีหลังจากเรียนจบเนื่องจากการเรียนสายอาชีพจะเน้นในเรื่องของวิชาชีพแต่ละชนิดโดยตรง  จึงเป็นเหตุผลที่เด็กขาดโอกาสหลายคนเลือกเรียน เพราะอยากรีบหารายได้เพื่อมาช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของครอบครัวโดยเร็ว แต่ยังมีเด็กอาชีวะจำนวนหนึ่งที่ขาดโอกาสในการเรียนต่อจนจบชั้น ปวช.3  และอาจทำให้พวกไม่สามารถประกอบอาชีพอย่างที่ต้องการได้  มูลนิธิยุวพัฒน์ เห็นถึงปัญหาและตระหนักถึงความสำคัญของการมีอาชีพของนักเรียนอาชีวะ จึงร่วมกับเทใจ และ  head100 ชวนผู้ใหญ่ใจดีร่วมมอบโอกาสทางอาชีพให้แก่นักเรียนอาชีวะ จำนวน 250 คน ให้ได้เรียนจบชั้น ปวช.3 เพื่อให้พวกเขาได้ประกอบอาชีพตามที่ตั้งใจไว้ และกลายเป็นกำลังสำคัญของแรงงานสายอาชีพให้กับประเทศไทยต่อไปผ่าน โครงการ The Big Give… การให้อาชีพคือการให้ที่ยิ่งใหญ่

วันนี้มีอดีตนักเรียนทุนสายอาชีพของมูลนิธิยุวพัฒน์ 3 ท่านได้มาเล่าประสบการณ์ในการเลือกเรียนสายอาชีพและความมุ่งมั่นที่พวกเขาทำเพื่อให้ทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จมาฝากเพื่อนชาวพรีเมียร์ค่ะ

น้องศิริพร อดีตนักเรียนทุนสายอาชีพ จบชั้น ปวช. 3 ประเภทวิชาคหกรรมสาขาอาหารและโภชนาการจังหวัดตรังตัดสินใจเรียนคหกรรมเพราะความชอบในการทำอาหารตั้งแต่เด็กอีกทั้งฐานะทางบ้านยากจนจึงคิดว่าการเรียนสายอาชีพน่าจะทำให้ได้ทำงานเร็วขึ้นและได้เดินสู่เส้นทางอาชีพตนเองฝันคือการมีร้านขนมเล็กๆเป็นของตัวเอง

หนูเลือกเรียนสายอาชีพเพราะจะได้จบทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวและทำตามฝันของหนูเร็วๆ ข้อดีของสายอาชีพคือหนูได้ลงมือปฎิบัติจริง ได้ประสบการณ์ อย่างตอนฝึกงานหนูเลือกไปฝึกที่ร้านทำขนมซึ่งก็ได้นำความรู้ที่เรียนมาใช้ประโยชน์ได้จริงค่ะ ขอบคุณมูลนิธิยุวพัฒน์ ที่ช่วยทำให้หนูมีโอกาสทางการศึกษา ให้หนูได้เรียนจบเพื่อให้หนูได้ไปทำความฝันของหนูให้เป็นจริงค่ะ

ไม่แตกต่างจาก น้องเกศินี อดีตนักเรียนทุนสายอาชีพ ที่จบชั้น ปวช. 3 สาขาพาณิชยกรรม/บริหารธุรกิจวิชาเอกคอมพิวเตอร์ธุรกิจวิทยาลัยอาชีวศึกษาในจังหวัดนครปฐมเลือกเรียนสายอาชีพเพราะทำให้มีโอกาสได้งานมากกว่าทำให้รู้ว่าถนัดอะไรชอบอะไรจบมาแล้วจะทำงานอะไร

เรียนสายอาชีพได้ความรู้และได้ลงมือปฎิบัติจริงๆ ที่สำคัญทำให้มีงานหาเงินได้เร็วขึ้น  หนูเป็นคนที่ทำงานตั้งแต่ช่วงที่เรียน นำความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ที่เรียนมาหารายได้เสริมระหว่างเรียน การทำงานจึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตหนูไปแล้ว และยิ่งเรียนจบและได้งานทำเร็วก็ยิ่งดีมาก ซึ่งหนูมาถึงตรงนี้ได้ก็เพราะทุนการศึกษาจากทุกคน หนูตั้งใจใช้ความรู้ที่มี มาใช้ในการทำงานเก็บเงิน  เพราะต้องการเรียนต่อ อีกทั้งยังต้องส่งน้องเรียนหนังสือให้จบ รวมทั้งพ่อแม่ก็อายุมากขึ้น จึงจะต้องมีเงินสำรองเอาไว้ใช้จ่ายในครอบครัว รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่หากเจ็บไข้ได้ป่วย

น้องสุภาพร อดีตนักเรียนทุนสายอาชีพ จบชั้น ปวช. 3 วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกมหานครสาขาอุตสาหกรรมวิชาเอกเครื่องมือกลและซ่อมบำรุงปัจจุบันทำงานบริษัทบรรจุภัณฑ์แห่งหนึ่ง

บอกว่าสาเหตุที่เลือกเรียนสายอาชีพ เพราะชอบงานช่างมาตั้งแต่เด็กๆ และที่สำคัญคือทำให้เรารู้เป้าหมายของตัวเองชัดเจนว่าต้องการทำอาชีพอะไร และสามารถหารายได้ได้จริงๆ เพราะเราต้องดูแลครอบครัวและส่งน้องๆ เรียนหนังสือ  การที่ได้มายืนตรงนี้ขอบคุณมูลนิธิยุวพัฒน์ที่เป็นส่วนสำคัญของชีวิตหนู  หนูเองจะมุ่งมั่นพัฒนาและหาความรู้ เพื่อส่งเสริมวิชาชีพการทำงานของตัวเองให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นและมีอาชีพที่มั่นคงต่อไปในอนาคต

 

เรื่องราวของน้องๆ 3 คน ถือเป็นตัวแทนของกลุ่มเด็กๆ ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ต้องการทำงานเร็วเพื่อหารายได้ให้กับตัวเองและแบ่งเบาภาระครอบครัว  แน่นอนว่าโอกาสที่พวกเขาได้รับในวันนั้นจนทำให้มีวันนี้ มาจากการมีส่วนร่วมของทุกคนที่ช่วยสนับสนุนโครงการทุนการศึกษาของมูลนิธิยุวพัฒน์ โดยการมอบทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่องให้กับเยาวชนขาดโอกาส ซึ่งในสายอาชีพ มูลนิธิฯ มอบทุนการศึกษาในระดับชั้น ปวช. 1 – ปวช. 3 โดยจะได้รับทุนต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี เทอมละ 7,000 บาท หรือ เท่ากับปีละ 14,000 บาท 

และเราทุกคนสามารถร่วมบริจาคทุนการศึกษาเพื่อเป็นการให้อาชีพแก่เด็กที่ขาดโอกาสได้ต่อยอดชีวิต ประกอบอาชีพตามที่ตั้งใจไว้ได้  ผ่านการร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาได้ที่มูลนิธิยุวพัฒน์

FOOD FOR GOOD
จัดงานอบรมพัฒนาศักยภาพครูโภชนาการ

FOOD FOR GOOD

FOOD FOR GOOD
จัดงานอบรมพัฒนาศักยภาพครูโภชนาการ รวม 56 โรงเรียน
เพื่อการดูแลภาวะโภชนาการที่ดีให้กับเด็ก

ประมวลภาพงานอบรมพัฒนาศักยภาพครูโภชนาการ โครงการ FOOD FOR GOOD ปีการศึกษา 2566 ในวันที่ 10-11 มิถุนายน 2566 ให้กับโรงเรียน
ในโครงการ FOOD FOR GOOD ทั้ง 56 โรงเรียน รวมผู้อำนวยการโรงเรียนและคุณครูกว่า 170 ท่าน

FOOD FOR GOOD เชื่อว่าคุณครูจะสามารถดูแลภาวะโภชนาการของนักเรียนในโรงเรียน ได้อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นจะต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพให้กับคุณครู โดยเสริมชุดความรู้ ดังนี้

  • การสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน Collective Vision
  • โภชนาการสำหรับเด็กวัยเรียน
  • การวางแผนเมนูอาหารกลางวันสำหรับเด็กวัยเรียน
  • เทคนิคการปรุงประกอบอาหารให้อร่อยและดีต่อสุขภาพ
  • สุขาภิบาลอาหาร
  • การชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และโปรแกรมติดตามภาวะโภชนาการเด็ก
  • การดูและเด็กที่เสี่ยงต่อภาวะทุพโภชนาการ
  • การสื่อสารเชิงบวกอย่างมีประสิทธิภาพ Effective Communication

โดยการอบรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักโภชนาการ กรมอนามัย นักกำหนดอาหาร คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และผู้เชี่ยวชาญเสริมความรู้โภชนาการ นักโภชนาการของโครงการ FOOD FOR GOOD ผู้เชี่ยวชาญเสริมทักษะที่จำเป็นให้กับครูอย่าง Teach For Thailand, Krungsri Consumer และ Raya Heritage ที่มาช่วยกันติดเครื่องมือเพื่อ ให้ครูนำไป ประยุกต์ ใช้ในการดูแลเด็กๆที่โรงเรียนของตนเองได้อย่างถูกต้อง

โคราชปันกัน

ขอบคุณทุกการแบ่งปันของนักปัน
ใจดีชาวโคราช โคราชปันกันจัดงาน
“ช้อป ฟิน กิน ปัน”

ช้อป ฟิน กิน ปัน

ขอบคุณทุกการแบ่งปันของนักปันใจดีชาวโคราช
โคราชปันกันจัดงาน “ช้อป ฟิน กิน ปัน”
ปล่อยของส่งน้องเรียน เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี
โคราชปันกัน ที่เดอะมอลล์โคราช

โดยภายในมีสินค้า ทั้งมือหนึ่ง มือสอง ของแบรนด์เนม ในราคาที่ย่อมเยานำมาจำหน่าย รวมทั้งมีการร่วมประมูลสินค้าพิเศษ
 ในราคาเริ่มต้นเพียง 500 บาท

พร้อมกิจกรรมฟินๆ และของอร่อยภายในงานมากมาย ทั้งสายมู สายปั้น สายวาด สายสอย สนุกกับ work shop ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ชมการแสดงดนตรี  และละครเวทีสอนใจ กิจกรรมสอยดาว เสี่ยงเซียมซี พร้อมปรึกษาปัญหาสุขภาพ และปรึกษด้านโชคชะตาและลายมือ

นอกจากนี้ยังมีนักปันใจดีที่ร่วมปันสิ่งของ ปันแรงกาย ปันความถนัด เพื่อเปลี่ยนเป็นทุนการศึกษา ให้กับเยาวชนที่ยังขาดโอกาสอีกด้วย

ซึ่งงานในครั้งนี้ ร้านปันกันโดย มูลนิธิยุวพัฒน์ สามารถระดมทุนได้ 82,730 บาท
เปลี่ยนเป็นทุนการศึกษาให้เด็กขาดโอกาสจำนวน 11 ทุน (ทุนละ 7,000 บาท/คน/ปี)

ขอขอบคุณทุกการแบ่งปัน เพื่อสร้างสังคมดีร่วมกัน

Partnership and Collaboration

กลไกความร่วมมือ “Partnership and Collaboration”

Partnership and Collaboration

กลไกความร่วมมือ “Partnership and Collaboration”
กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ร่วมขับเคลื่อน และ
สนับสนุนงานต่อต้านคอร์รัปชัน

การพัฒนากลไกความร่วมมือ “Partnership and Collaboration” เป็นสิ่งที่กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของภาคีในประเด็นทางสังคมด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงแต่การสนับสนุนเงินทุนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสนับสนุนในด้านอื่นๆ   เช่น บุคลากร ร่วมเป็นอาสาสมัครแบ่งปันเวลา สนับสนุนงานด้านการบริหารจัดการและให้คำแนะนำ   องค์ความรู้และความเชี่ยวชาญ เพื่อเป้าหมาย สร้างตัวคูณพลังทางสังคม ขยายผลการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ดีขึ้นด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)  เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่มีพันธกิจด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ที่กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ร่วมสนับสนุนฯ มาโดยตลอด  เพื่อยกระดับการสร้างกลไกความร่วมมือ มุ่งหวังให้เกิดพลังทางสังคมขนาดใหญ่เพียงพอที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ

ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธ์วันนี้เป็นการเริ่มต้นที่ดี และจากนี้ไปจะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อหารืออย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้เห็นความก้าวหน้า และจะเปิดโอกาสให้ประชาชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ เพื่อนำความหวัง ความไว้ใจ และความเชื่อมั่นกลับมา

คุณวิเชียร พงศธรความท้าทายของการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน คือ การเชื่อมโยงการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ภาคประชาชน ภาคธุรกิจ ภาควิชาการ หน่วยงานองค์กรอิสระ หน่วยงานรัฐต่างๆ แต่ส่วนสำคัญอย่างยิ่งคือ บทบาทภาคประชาชน ซึ่งต้องไม่ใช่เป็นผู้รับบริการอย่างเดียว แต่ประชาชนต้องมีส่วนร่วม เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและแก้ไขปัญหา

ซึ่งได้มีการหารือพัฒนาการทำงานร่วมกัน ในเรื่องการเปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใส ผ่านเครื่องมือและกลไกต่างๆ เช่นการขับเคลื่อนโครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact : IP) เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ รวมถึงขั้นตอนการขอใบอนุญาต การใช้ดุลยพินิจต่างๆ เพื่อนำมาสู่ความร่วมมือขนาดใหญ่ในการเฝ้าระวังและสร้างความโปร่งใสในกระบวนการทำงานของทุกส่วน

กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ ขอเชิญชวนพนักงานร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของภาคีในประเด็นทางสังคมด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมด้วยตัวเอง ผ่านการลงมือทำ เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ รวมพลังเพื่อเป็นพลเมืองที่ส่วนร่วมเพื่อส่วนรวม (Active Citizen) “ที่ต้องไม่ใช่เป็นผู้รับบริการอย่างเดียว แต่ต้องมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและแก้ไขปัญหา

ครบรอบ 30 ปี มูลนิธิยุวพัฒน์

ครบรอบ 30 ปี มูลนิธิยุวพัฒน์ ชวนทุกคนร่วมสร้างโอกาสให้กับเด็กและเยาวชน

ครบรอบ 30 ปี มูลนิธิยุวพัฒน์


ครบรอบ 30 ปี มูลนิธิยุวพัฒน์
ชวนทุกคนร่วมสร้างโอกาสให้กับเด็กและเยาวชน

30 ปีก่อน มูลนิธิยุวพัฒน์ได้เริ่มต้นช่วยเหลือเด็กและเยาวชนขาดโอกาส จากงานสนับสนุนทุนการศึกษา ด้วยความเชื่อว่า การศึกษาคือรากฐานของการพัฒนา และเด็กไทยทุกนควรได้รับโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ปัจจุบันมูลนิธิยุวพัฒน์ได้ขยายบทบาทการเป็นตัวกลาง เชื่อมต่อความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายและภาคส่วนต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนขาดโอกาสในมิติอื่นๆ เพิ่มขึ้น ได้แก่ พัฒนาศักยภาพเด็กปฐมวัย ดูแลภาวะโภชนาการ พัฒนาเครื่องมือการเรียนการสอนในโรงเรียน  เสริมสร้างทักษะชีวิต รวมถึงการสร้างคนดีเพื่อเติบโตเป็นกำลังสำคัญกับประเทศ

เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี มูลนิธิยุวพัฒน์ เชิญชวนภาคีทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองการทำงาน และแนวทางความร่วมมือที่จะช่วยเหลือเด็กขาดโอกาส โดยมีภาคีร่วมจัดงานคือ โครงการพัฒนาเด็กปฐมวัยแบบบูรณาการโดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง (ICAP)  โครงการฟู้ด ฟอร์ กู๊ด, Learn Education  ห้องเรียนดิจิทัลวิทย์คณิต, a-chieve การพัฒนาครูแนะแนวรุ่นใหม่และเครื่องมือที่ช่วยให้เด็กไทยออกแบบชีวิตตนเองได้, Winner English ห้องเรียนดิจิทัลวิชาภาษาอังกฤษ, Teach for Thailand  ครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง, โครงการพัฒนาโรงเรียนคุณธรรม และ โครงการร้านปันกัน

คุณวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิยุวพัฒน์ เล่าว่าเป้าหมายสูงสุดของมูลนิธิยุวพัฒน์ คือ   การสร้างความร่วมมือ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ ลดความเหลื่อมล้ำของระบบการศึกษา เพื่อให้เด็กขาดโอกาสได้เรียนหนังสือ ได้รับการดูแลรอบด้าน มูลนิธิยุวพัฒน์จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อความร่วมมือจากภาคี พัฒนาเครื่องมือต่างๆ ที่มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้ตามความถนัด 

ความร่วมมือของภาคเอกชนเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนขาดโอกาส 

คุณแม่ทัพ . สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) เล่าว่า ได้เริ่มต้นจากแคมเปญ Limited Education จำหน่ายขนมปังเนยสด และสะกดผิดเป็นขนมปังเนยโสดสร้างความตระหนักปัญหาของเด็กไทยที่อ่านเขียนไม่ได้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก และมีแคมเปญต่อเนื่อง เป็นการทำงานช่วยเหลือสังคมที่เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ และทีมงานก็ร่วมพัฒนาโปรเจกต์กับยุวพัฒน์เป็นการทำงานแบบร่วมกันคิด ร่วมกันทำ เพราะหากเราสามารถพัฒนาคนให้มีคุณภาพ ภาคเอกชนก็จะได้คนที่มีคุณภาพ ช่วยทำให้ธุรกิจเจริญเติบโตและก้าวหน้าไปอย่างยั่งยืน

คุณสุจารี ตามครองชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและเทคโนโลยี บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด ได้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์สำคัญกับ FOOD FOR GOOD ขับเคลื่อนงานเพื่อโภชนาการเด็กไทย โดยตั้งต้นจากการทำความเข้าใจปัญหาและพัฒนาแคมเปญ โดยใช้ความถนัดขององค์กร มาพัฒนานวัตกรรม สร้างแอพพลิเคชั่นติดตามภาวะโภชนาการเด็ก และแคมเปญการระดมทุนผ่านบัตรเครดิต สร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มลูกค้าของกรุงศรีคอนซูมเมอร์  ซึ่งสิ่งสำคัญคือ การได้แบ่งปันองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญของแต่ละองค์กรเพื่อสร้างสังคมให้ดีขึ้น และตรงกับแนวคิดองค์กรในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และการมีธรรมาภิบาล (ESG)

คุณวุฒิ วิพันธ์พงษ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารความยั่งยืนทางธุรกิจและสิ่งแวดล้อม บริษัท  แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เราให้ความสนใจกับกิจกรรมกับปันกัน เพราะเห็นว่าทางปันกันมีกระบวนการทำงานที่เข้มแข็ง ทำให้เราสร้างความร่วมมือได้อย่างรวดเร็ว และเป้าหมายการระดมทุนของปันกันก็ตรงกับ AssetWise ที่ให้ความสำคัญกับด้านการศึกษา นอกจากนี้การให้พื้นที่ตั้งกล่องปันกัน ก็เป็นการสร้างความสุขให้กับลูกบ้าน พนักงาน ที่ได้ร่วมแบ่งปันสิ่งของ และยังเป็นการช่วยด้านสิ่งแวดล้อม ในการลดปริมาณขยะจากสิ่งของสภาพดีที่ตนไม่ได้ใช้แล้ว จึงเป็นโมเดลที่สมบูรณ์ทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และธุรกิจ

ความร่วมมือจากภาครัฐ พร้อมเชื่อมต่อการทำงานกับทุกภาคส่วน

ภายในงาน ยังมีภาครัฐที่มาร่วมสะท้อนมุมมองของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและเห็นตรงกันว่าต้องสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคสังคม โดยสภาการศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

คุณสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการสภาการศึกษา มองว่า ภาครัฐให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษามาโดยตลอด มีโครงการเพื่อสนับสนุนเด็กมากมาย เช่น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครอบครัวยากจน 2,000 บาทในสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา  โครงการเรียนสายอาชีวศึกษาเพื่อให้เด็กได้ทำงาน มีอาชีพ และมีรายได้ระหว่างเรียน โครงการเด็ก 1 คน 1 ชุมชนดูแล ให้คนที่มีศักยภาพในชุมชน มีความพร้อมที่จะพัฒนาการศึกษาต่อไปในอนาคต และอีกมากมาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนเด็กขาดโอกาสที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การสร้างความร่วมมือให้ภาคส่วนอื่นเข้ามาช่วยเหลือจึงมีความสำคัญ

คุณพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ สพฐ. เล่าถึงบทบาทของ สพฐ. ว่าเด็กทั่วประเทศอยู่ในความดูแลของ สพฐ. จำนวน 6 ล้านคน 30,000 โรงเรียน ขณะที่เด็กไทยเข้าไม่ถึงการศึกษา และตกหล่นราว 70,000 คน การแก้ปัญหาการศึกษาจึงจำเป็นต้องเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่มีความพร้อมและสนับสนุนการทำงาน เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาไปด้วยกัน

 

จากวันที่ได้รับโอกาสในวันนั้นเป็นฉันในวันนี้

แขกคนสำคัญในงานครบรอบ 30 ปี มูลนิธิยุวพัฒน์อีกกลุ่มหนึ่ง คือตัวแทนผู้ที่ได้รับโอกาสอดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์” … จากวันแรกที่ได้รับโอกาสสานต่อความฝันและเปลี่ยนแปลงชีวิต จนมาถึงวันนี้กับความตั้งใจในการส่งต่อโอกาสให้กับน้องๆ รุ่นต่อไป  และคำขอบคุณที่พวกเขาอยากสื่อไปถึงคุณโอกาสทุกท่าน 

รู้สึกภูมิใจและดีใจที่ได้เป็นนักเรียนทุนรุ่นแรกในครอบครัวยุวพัฒน์ อยากบอกว่าการศึกษามีความสำคัญมากๆ กับเยาวชนไทยทุกคน มีส่วนในการกำหนดอาชีพของเด็กในอนาคต และพร้อมในการเป็นพลเมืองที่ดีมีความรู้คู่คุณธรรม ขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณทุกท่านที่ให้โอกาสเด็กคนหนึ่งในวันนั้น และได้โอกาสมาเล่าเรื่องดีๆ ในวันนี้จันจีรา โสะประจิน อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์ รุ่นที่ 1 .สตูล ปัจจุบันเป็น นักวิชาการส่งเสริมการลงทุนชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)

ในวันนั้นหนูเรียนอยู่ ป.6 ไม่มีโอกาสเรียนต่อเรียนต่อในระดับมัธยม แต่โอกาสจากมูลนิธิยุวพัฒน์และผู้ใหญ่ใจดีทำให้หนูได้เรียนต่อจนจบ ม.6 หนูอยากเป็นคุณครูเพราะอยากส่งมอบโอกาสให้คนอื่นๆ เหมือนวันนั้นที่หนูเคยได้รับจากมูลนิธิยุวพัฒน์ ขอสัญญาว่าหนูจะเป็นคุณครูและสร้างโอกาสให้เด็กๆ ต่อไปเกศรา กล้าหาญ อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์ .ลพบุรี ปัจจุบัน นักศึกษา สาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ ชั้นปีที่ 3

เส้นทางของหนูไม่ได้เรียบหรูและสุขสบายเหมือนคนอื่นๆ มีคุณย่าเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้หนูตั้งเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน มีคุณครู และพี่ๆ มูลนิธิยุวพัฒน์ ชี้แนะแนวทางในการแก้ปัญหา และเป็นกำลังใจสำคัญของหนูมาตลอดค่ะ แม้วันนี้หนูจะยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่สัญญาว่าจะทำหน้าที่ของครูที่ดีในอนาคตเพื่อตอบแทนมูลนิธิยุวพัฒน์ให้ได้บัวชมพู พวงสิน  อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์ จ.ชลบุรี ปัจจุบัน นักศึกษา สาขาคณิตศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ ชั้นปีที่ 4

พ่อแม่ปู่ย่าตาทวดพวกเรามีอาชีพทำนา รายได้ที่หามาได้ไม่เพียงพอที่จะส่งลูกเรียน พอได้รับทุนทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องตั้งใจเรียนนะ จะได้มีโอกาสเรียนต่อสูงขึ้น ตอนนี้เราทำงานแล้ว ก็อยากตอบแทนคืนให้กับสังคมบ้าง เพราะเราเองก็ได้รับโอกาสจากมูลนิธิฯ เลยเริ่มต้นด้วยการบริจาครายเดือนกับมูลนิธิยุวพัฒน์ จนถึงตอนนี้ก็เกือบจะ 8 ปีแล้ว อยากเชิญชวนทุกๆ ท่านมาร่วมด้วยช่วยมูลนิธิยุวพัฒน์ของเราต่อไปอรปวีย์ สีทอง อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์ จ.อำนาจเจริญ ปัจจุบัน วิศวกรอาวุโส  บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT

ขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกๆ ท่าน องค์กรทุกๆ องค์กรที่ได้มอบโอกาสให้กับพวกเราได้ทำตามความฝันของตัวเอง และในวันนี้ความฝันของพวกเราเป็นจริงแล้ว หลายๆ คนกลับมาเป็นผู้ให้ มอบทุนการศึกษาให้กับรุ่นน้อง  เป็นอาสาสมัครให้กับมูลนิธิฯ เพราะหวังว่าน้องๆ จะได้มีโอกาสเดินตามความฝันเหมือนกับตัวเอง ทั้งหมดเกิดจากทุกๆ ท่านได้มอบสิ่งที่มีค่ามากๆ ให้กับพวกเรา นั่นก็คือ โอกาสทางการศึกษาอดิศักดิ์ สุดสาว อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์ จ.เลย ปัจจุบัน หัวหน้างานกราฟฟิค บริษัทเอกชน

เพราะการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เป็นปัญหาขนาดใหญ่ จำเป็นต้องอาศัยพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สร้างกระบวนการมีส่วนร่วม และการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการพัฒนาให้เด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสเติบโตเป็นกำลังสำคัญ ที่จะพัฒนาสังคมและประเทศต่อไป

ร้อยพลังสร้างสังคมดี

ร้อยพลังสร้างสังคมดี
ชวนทุกคนมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม

ร้อยพลังสร้างสังคมดี

ร้อยพลังสร้างสังคมดี ชวนทุกคนมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม

ร้อยพลังสร้างสังคมดี คืออะไร 

เพราะการแก้ปัญหาสังคมขนาดใหญ่มีความซับซ้อน ร้อยพลังสร้างสังคมดี จึงเป็นแพลตฟอร์ม ที่มีเป้าหมายเพื่อเป็นเครื่องมือขยายผลการสร้างสังคมที่ “เท่าเทียม” และ “ยั่งยืน” การทำงานแบบมีส่วนร่วมกับ “องค์กรตัวกลาง” ที่ทำงานแก้ไขปัญหาสังคมในประเด็นต่างๆ ที่ต้องเร่งให้ความสำคัญ ได้แก่ เยาวชน สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และธรรมาภิบาล ด้วยการผสานความร่วมมือ เชื่อมต่อทรัพยากรและสื่อสารกับทุกภาคส่วน  เพื่อให้การแก้ไขปัญหาสังคมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างผลกระทบเชิงบวกสู่สังคมที่ชัดเจนและวัดผลได้

การทำงานของเรา

เราเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาทางสังคมใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ เยาวชน สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และธรรมาภิบาล จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และได้รับการสนับสนุนจาก “กลไกความร่วมมือการลงทุนทางสังคม  และ “กลไกความร่วมมือการสื่อสารเพื่อสังคม    ที่จะช่วยหล่อเลี้ยงให้เกิดกระบวนการแก้ปัญหาและสร้างระบบนิเวศเพื่อความยั่งยืนของสังคม

รู้จักเรา

คุณกนกวรรณ โชว์ศรี ผู้อำนวยการ โครงการร้อยพลังสร้างสังคมดี 

“อยากให้เว็บไซต์ที่เราพัฒนาขึ้นใหม่นี้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมาทำความรู้จักกับเครือข่ายความร่วมมือภาคสังคมในประเด็นที่หลากหลาย วันนี้เลยอยากจะชวนชาวพรีเมียร์ทุกคนเข้ามาใช้เว็บไซต์หาข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายภาคสังคม และถ้าได้ค้นพบประเด็นและโครงการที่ตรงกับความสนใจของตัวเองแล้วก็สามารถเชื่อมต่อกับช่องทางของภาคีโดยตรง และร่วมลงมือสร้างสังคมดีกับกิจกรรมของภาคีได้ทั้งในฐานะ active citizen และฐานะองค์กรเลยค่ะ”

วันนี้ร้อยพลังสร้างสังคมดี พร้อมชวนชาวพรีเมียร์มีส่วนร่วมลงมือเปลี่ยนสังคมไปพร้อมกับเรา

เพราะทุกคนคือผู้เปลี่ยนแปลงสังคม เพียงลงมือทำ เริ่มเลยไม่ต้องรอ
www.collaborationforgoodsociety.org

หรือโทร 02-301-1117 อีเมล์ goodsociety@ktf.premier.co.th

อาสาร้องส่งน้องเรียน

ศิลปินรุ่นใหญ่ รุ่นเล็กพร้อมใจร่วมเป็น
“คุณโอกาส” กับมูลนิธิยุวพัฒน์ ชวนทุกคนในสังคมมอบโอกาสการศึกษาให้เด็กไทยกับโครงการ “อาสาร้อง ส่งน้องเรียน”

อาสาร้อง ส่งน้องเรียน

ศิลปินรุ่นใหญ่ รุ่นเล็กพร้อมใจร่วมเป็น “คุณโอกาส”
กับมูลนิธิยุวพัฒน์ ชวนทุกคนในสังคมมอบโอกาสการศึกษาให้เด็กไทย
กับโครงการ “อาสาร้อง ส่งน้องเรียน”

คนทุกคนก็คงต้องการโอกาส และคุณก็สามารถเป็นคุณโอกาสได้ทุกคน จะดำจะขาว จะรวยจะจน แต่ละคนต้องการโอกาสเหมือนกันบางส่วนของเนื้อหาเพลงคุณโอกาสที่มูลนิธิยุวพัฒน์ ได้รับความร่วมมือจากเหล่าบรรดาศิลปินเพลง ร่วมกันขับร้องเพลงนี้พร้อมทำคลิป เพื่อต้องการสื่อและชวนทุกคนในสังคมมาเป็นคุณโอกาส มอบโอกาสทางการศึกษา พาเด็กๆ กลับไปเรียนหนังสือต่อ ผ่านโครงการ อาสาร้องส่งน้องเรียน 

ประเทศไทยมีเด็กยากจนกว่า 1.8 ล้านคน และในแต่ละปี กว่า 5 แสนคนต้องหลุดจากระบบการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้สถานการณ์โควิดที่รุนแรงมันส่งผลกระทบให้หลายครอบครัวต้องเกิดวิกฤต โดยเฉพาะพวกเด็กยากจนและยากจนพิเศษ      ที่หลายครอบครัวขาดรายได้ ขาดผู้นำครอบครัว ทำให้มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้เรียนต่อ โดยคาดการว่าปีการศึกษา 2565  ตัวเลขเด็กที่มีความเสี่ยงจะหลุดออกจากระบบอาจจะสูงถึงกว่า 50,000 คน ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือ (ผลสำรวจโดย กสศ. เดือนสิงหาคม 2564)  มูลนิธิยุวพัฒน์ที่ทำงานเรื่องการศึกษาของเยาวชนไทยมาโดยตลอด เห็นถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น มูลนิธิยุวพัฒน์จึงได้ทำโครงการอาสาร้อง ส่งน้องเรียน  โดยใช้เพลงคุณโอกาสเป็นสื่อหลักในการร่วมระดมทุนและสร้างการตระหนักรู้ให้กับคนในสังคม 

เพลงนี้ได้ตัวจริงในวงการเพลงอย่างคุณปิติ ลิ้มเจริญหรือพี่ตู๋ แห่งวงนั่งเล่นมาช่วยแต่งเนื้อร้องและทำนองพร้อมชวนวงนั่งเล่น และเหล่าศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ ธีร์ ไชยเดช, เจี๊ยบ วรรธนา,  อิน  บูโดกัน, Better Weather , สุเมธ องอาจ,  เที่ยรี่เจสซี่ เมฆวัฒนา, แมว จิรศักดิ์ ปานพุ่ม ฯลฯ มาร่วมกันคัฟเวอร์เพลงคุณโอกาสในสไตล์ของตัวเอง เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนในสังคมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเด็กขาดโอกาสทางการศึกษาในมูลนิธิยุวพัฒน์ โดยพี่ตู๋เล่าว่า รู้จักมูลนิธิยุวพัฒน์และเคยเป็นผู้บริจาคมาแล้วก่อนหน้านี้ เพลงนี้แต่งเนื้อร้องและทำนองให้มูลนิธิฯ โดยใช้คีย์เวิร์ดคำว่าคุณโอกาสมาอยู่ในเพลง รู้สึกภูมิใจที่ได้แต่งเพลงนี้ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเพลงที่มีความพิเศษอะไรมาก แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อยเราได้ใช้ความถนัดของตัวเองมาบอกเล่าและอยากชักชวนให้ทุกๆ คนที่มีโอกาสมากกว่าหยิบยื่นโอกาสให้กับคนที่ด้อยกว่าเพราะมันหมายถึงน้ำใจที่ยังคงมีอยู่ในสังคมและจะทำให้โลกหมุนต่อไปได้ มาเป็นคุณโอกาสให้เด็กๆ กันนะครับ

ด้านคุณสดุดี ชลิตเรืองกุล ผู้จัดการฝ่ายการสื่อสารและพัฒนาสัมพันธ์ บอกว่ามูลนิธิยุวพัฒน์ทำงานช่วยเหลือเด็กขาดโอกาสด้านการศึกษา ซึ่งหนึ่งในภารกิจหลักคือการให้ทุนการศึกษาเพื่อช่วยให้เด็กๆ ได้มีโอกาสเรียนต่อจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ที่ผ่านมาเรามีโครงการที่ชวนคนในสังคมให้เข้ามามีส่วนร่วม กับมูลนิธิฯ อย่างต่อเนื่อง สำหรับปีนี้เป็นการระดมทุนผ่านเสียงเพลงของอาสาร้องที่มาร่วมกันส่งน้องเรียนกับเพลงคุณโอกาส  โดยหวังว่าจะเป็นสีสันเพื่อให้เข้ากับเทศกาลแห่งความสุขที่กำลังจะเกิดขึ้น ให้ทุกคนผ่อนคลายจากความเครียดที่เจอกันมาตลอดทั้งปี และอยากเชิญชวนทุกคนร่วมมอบโอกาสให้เด็กไทย เพราะทุกความร่วมมือมีความหมาย ไม่ว่าใครก็สามารถช่วยเหลือปัญหาด้านการศึกษาได้ ด้วยการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับน้องๆ เพียง 600 บาทต่อเดือนจากทุกท่านก็จะสร้างโอกาสให้เด็กๆ กลับไปเรียนได้ หรือท่านใดไม่ว่าจะเป็นศิลปินนักร้อง ผู้ใหญ่ใจดี จะมาร่วมกิจกรรมอาสาร้อง ส่งน้องเรียนเพื่อนำไปเป็นสื่อในการระดมทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ ที่ขาดโอกาส ในมูลนิธิยุวพัฒน์ก็สามารถร่วมได้เช่นกัน โดยติดต่อผ่านทาง messenger Facebook ของมูลนิธิยุวพัฒน์

ติดตามผลงานจากศิลปินที่มาร่วมเป็นคุณโอกาสได้ที่  

www.facebook.com/yuvabadhana  

YouTube: มูลนิธิยุวพัฒน์ ให้อนาคตกับผู้ที่เป็นอนาคตของประเทศไทย

https://www.youtube.com/channel/UCATrXPTDq5qdodkxKNp9VSw 

มาร่วมกันเป็นคุณโอกาสบริจาคทุนการศึกษาผ่านมูลนิธิยุวพัฒน์ ได้ที่

บัญชีมูลนิธิยุวพัฒน์ ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 095-2-15120-7

(หากต้องการใบเสร็จ กรุณาส่งชื่อนามสกุล ที่อยู่ เบอร์มือถือ และสลิปโอนเงินบริจาค มาที่ ybf@ybf.premier.co.th หรือ Line แอดไอดี @BOS9702T โดยหมายเหตุว่า : คุณโอกาส)

บริจาคออนไลน์ (e-donation) ผ่านเว็บไซต์ ปันบุญ https://www.ttbbank.com/tmbf/donate?foundation_id=00010…

เงินบริจาคนำไปลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า

ปันกันเสื้อยืด

สาลินี รัตนชัยสิทธิ์ ​ศิลปินวาดภาพประกอบ
@Cyranodesign (ไซราโนดีไซน์) ใช้ความถนัด ร่วมสร้างสังคมดี
วาดภาพลายเส้น ส่งน้องเรียนให้ปันกัน

ปันกันเสื้อยืด ศิลปิน สาลินี รัตนชัยสิทธิ์


สาลินี รัตนชัยสิทธิ์ ศิลปินวาดภาพประกอบ
@Cyranodesign (ไซราโนดีไซน์) ใช้ความถนัด ร่วมสร้างสังคมดี
วาดภาพลายเส้น ส่งน้องเรียนให้ปันกัน

เพราะการแบ่งปันคือโอกาสทางการศึกษา  คุณสา สาลินี รัตนชัยสิทธิ์ ศิลปินวาดภาพประกอบ Character Illustrator เจ้าของแบรนด์ @Cyranodesign (ไซราโนดีไซน์) ที่มีสินค้าไลฟ์สไตล์มากมายทั้งผ้าพันคอ กระเป๋าผ้า  ฯลฯ จึงใช้ความถนัดของตนเอง เพื่อช่วยงานภาคสังคม วาดภาพลายเส้นมอบให้โครงการร้านปันกัน ผลิตเป็นเสื้อยืด นำมาจำหน่ายเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กขาดโอกาส ในมูลนิธิยุวพัฒน์ สินค้าจำหน่ายแบบพรีออเดอร์ ช่องทาง Line OA @Pankanonline ตั้งแต่วันนี้ -30 มิถุนายน 2565

คุณสาเล่าว่า เราได้ยินคำว่าแบ่งกันหรือแบ่งปันมาตั้งแต่เด็ก และเรียนรู้ว่าว่าการแบ่งนั้น เป็นการสละบางสิ่งให้แก่กัน สมัยเด็กเราอาจรู้สึกเสียดายเพราะยึดติด แต่พอโตมาแล้ว เราจะมองคนอื่นมากขึ้น เราเห็นว่าสิ่งที่เราปันไปนั้น ไม่ได้ทำให้ผู้รับหัวใจพองฟูอยู่ฝ่ายเดียว แต่เราก็ได้รับความสุขสดชื่น และอิ่มใจไปด้วยเช่นกัน คำว่าปันกันของสา เลยทำให้นึกถึงคำว่า “give and take” ซึ่งที่ผ่านมาเรามีส่วนร่วมทำกิจกรรมอาสาตลอด ทั้งแรงกายบ้าง ความรู้บ้าง อะไรที่คิดว่าตัวเองทำได้ หรือมีประโยชน์กับผู้อื่นก็จะลงมือทำ ทั้งเป็นอาสาช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ การทำสิ่งของจำหน่ายเพื่อช่วยเหลือในเหตุการณ์ต่างๆ 

แรงบันดาลใจของการวาดภาพนี้ตั้งต้นจากคำว่า ปันกันและเด็ก  ภาพตั้งต้นนั้นสาคิดถึงเด็ก 2 คน แบ่งสิ่งที่มีอยู่ให้แก่กัน สิ่งนั้นอาจไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แต่มีค่าในความรู้สึก เด็กคนหนึ่งมีดอกไม้ และเด็กอีกคนมีน้องเห็ด สิ่งที่ต่างคนต่างมีในมือ แลกเปลี่ยนหรือปันกันผ่านลวดลายของเครื่องแต่งกายพร้อมใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม เพราะทั้งคู่ได้แบ่งปันความสุขให้แก่กัน จึงเกิดเป็นภาพวาดน่ารักๆ นี้ขึ้น 

คุณสากล่าวเพิ่มเติมว่าบางท่านเวลาเห็นใครหลายๆ คนช่วยเหลือกัน อาจจะคิดว่า เขาพร้อมและมีทุกอย่างเลยแบ่งปันได้ แต่จริงๆ การแบ่งปันกัน อาจเริ่มจากทักษะความสามารถเล็กๆน้อยๆ ของตัวเอง เช่นการวาดรูป ทำอาหาร ถนัดภาษา ถนัดงานไม้ ถนัดคำนวณ ถนัดเจรจา ถนัดวางแผน ชอบปลูกต้นไม้ ชอบงานประดิษฐ์ หรือแม้แต่ยังไม่มีไอเดียในหัวว่าเราชอบอะไร ทุกคนก็สามารถเรียนรู้ และแบ่งปันความสามารถของตัวเองได้ สิ่งที่เราชอบ ความถนัดของเราอาจเป็นที่ต้องการของอีกคน ดังนั้น ความถนัดต่าง ๆ ล้วนเกื้อกูลกัน ลองดึงศักยภาพของตัวเองออกมา และแบ่งปัน เชื่อว่าเราทุกคนจะช่วยสร้างสังคมที่ดีขึ้นได้

การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเด็ก สามองว่าแม้ว่าพื้นฐานการเลี้ยงดู และความอบอุ่นในแต่ละครอบครัวอาจแตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญและควรเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต คือ การศึกษาที่ดี สำหรับเด็กบางคนการศึกษาอาจเป็นสิ่งหล่อหลอมเดียวด้วยซ้ำ ที่จะเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ไม่ว่าเด็กจะโตมาในสภาพความเป็นอยู่ สภาพแวดล้อมแบบไหน เขาควรได้รับโอกาสในการศึกษา ได้เรียนรู้ศาสตร์ต่างๆ เพื่อให้เขาคิดเป็น เลือกเป็น และใช้สิ่งนั้นเป็นต้นทุนชีวิต เพื่อพัฒนาตนเอง และพัฒนาสังคมต่อไป 

ต้องขอบคุณโครงการร้านปันกัน มูลนิธิยุวพัฒน์ ที่ชวนมาสร้างสรรค์ลายเส้นครั้งนี้ รายได้จากการจำหน่ายเสื้อยืดทุกตัว จะเป็นต้นทุนสำคัญให้กับเด็กๆ เพราะไม่ใช่แค่ตัวเงินรายได้ แต่นั่นคือ การทำให้เด็กทุกคนเข้าถึงการศึกษา ที่จะเป็นประโยชน์ทั้งกับตัวเขา และสังคมของเราในอนาคต

ผู้ที่สนใจสั่งเสื้อยืดส่งน้องเรียน จำหน่ายราคาตัวละ 350 บาท มีทั้งหมด 4 แบบ สินค้าจัดส่งภายในเดือนสิงหาคม 2565  

เลือกชมได้ที่ LineMyShop  https://shop.line.me/@pankanonline

เพลิน Feed the Future x FOOD FOR GOOD

เพลิน
Feed the Future x FOOD FOR GOOD

เพลิน Feed the Future x FOOD FOR GOOD

เพลิน Feed the Future x FOOD FOR GOOD

FOOD FOR GOOD จับมือกับ บริษัท สวีทมีท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตน้ำมันพืชเพลินในแคมเปญเพลิน Feed the Future” ด้วยความตั้งใจที่อยากเห็นเด็กและเยาวชนในประเทศไทยได้รับโภชนาการที่ครบถ้วนเหมาะสม มีสุขภาพดี พร้อมรับต่อการเรียนรู้และการเติบโตในอนาคตที่สดใส โดยบริษัท สวีทมีท (ประเทศไทย) จำกัด ด้มอบเงินบริจาคให้กับ FOOD FOR GOOD จำนวน 1,000,000 บาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานพัฒนาโภชนาการเด็กและเยาวชนในประเทศไทย

แคมเปญเพลิน Feed the Future x FOOD FOR GOODปี 2566 นี้ จะสามารถเข้าไปช่วยเหลือโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลจำนวน 7 แห่ง ให้มีระบบการจัดการงานอาหารและโภชนาการนักเรียนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้รับอาหารที่เหมาะสม ครบถ้วน และหลากหลายตามช่วงวัย มีวิธีการดูแลเด็กนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการให้สามารถกลับมาอยู่ในภาวะปกติ ส่งเสริมการทำเกษตรปลอดภัยในโรงเรียนเพื่อเป็นแหล่งอาหารและเรียนรู้ มีการสร้างความร่วมมือกับชุมชนและหน่วยงานในพื้นที่เพื่อเข้ามาต่อยอดงานให้เกิดความต่อเนื่อง (ประมาณการณ์จำนวนเด็กที่ได้รับประโยชน์ 700 คน*)

นายเอกภัท เตมียเวส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจเตมียเวส กรุ๊ป และประธานกรรมการ บริษัท สวีทมีท (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าบริษัทดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันพืช ยี่ห้อเพลินมาตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งการเจริญเติบโตของตลาดน้ำมันพืชมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ และในปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าต่างประเทศดีมาก และมีแผนที่จะขยายตลาดและกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นในประเทศเป็นหลักและเพิ่มสัดส่วนการตลาดในต่างประเทศโดยเฉพาะสหภาพยุโรป 

ตั้งแต่บริษัทฯ เริ่มดำเนินการก็คิดถึงเรื่องการตอบแทนด้านสังคมมาโดยตลอด ซึ่งปี 2566 นี้เป็นปีที่ดีที่จะมีโอกาสได้ลงมือทำ ผนวกกับได้รู้จัก FOOD FOR GOOD มูลนิธิยุวพัฒน์  และได้ศึกษางานที่ FOOD FOR GOOD ทำ เพื่อให้เด็กๆได้รับโภชนาการที่ครบถ้วน รู้สึกประทับใจแนวทางการทำงานการให้ที่ไม่จบแค่มื้ออาหารและคิดว่าเราเองก็มีเป้าหมายเดียวกัน คืออยากเห็นเด็กไทยเติบโตอย่างแข็งแรง เพราะมองว่าเด็กคืออนาคตของชาติ หากมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ คนของประเทศก็จะเป็นคนที่มีคุณภาพด้วย

*จำนวนเด็กนักเรียนและโรงเรียนเป็นเพียงการประมาณการ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

This site is registered on wpml.org as a development site.