การสร้างคุณค่าเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน)
ปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่จะหมดไปจากโลกนี้ เป็นปัญหาใหญ่ต้องร่วมกันแก้ไข เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้ในแบบที่ตนเองถนัด เช่น การแยกขยะพลาสติกเพื่อนำกลับไปรีไซเคิล การประหยัดไฟ–น้ำ และใช้เท่าที่จำเป็น เป็นต้น
ในภาคธุรกิจนั้น บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีการสานต่อนโยบายความสำเร็จร่วมกันอย่างยั่งยืน ในการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานและทรัพยากรให้คุ้มค่า เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ผ่าน 4 แผนงาน
การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- ปรับเปลี่ยนขั้นตอนการขนส่งสินค้าเป็นแบบ Direct Shipment โดยตรงจาก บริษัท พี เอม ฟูด จำกัด เพื่อลดระยะทางการขนส่งจากศูนย์กระจายสินค้า
- ลดระยะทางการขนส่งสินค้าแบบเดิม 5,218 กิโลเมตร
- ลดต้นทุนในการขนส่งสินค้าได้ถึง 40%
- ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 2.24 tonCO2e /ปี
การใช้พลังงานก๊าซ LNG ทดแทนก๊าซ LPG
- บริษัท พี เอม ฟูด จำกัด ได้ทำการศึกษา ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อทดลองและปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต จากเดิมคือก๊าซ LPG เป็นก๊าซ LNG ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด และไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน หากมีการรั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อม ก๊าซจะระเหยกลายเป็นไอแพร่กระจายในอากาศโดยไม่มีสารตกค้างในน้ำหรือดิน
การใช้พลังงานสะอาดทดแทน
- บริษัทพี เอม ฟูด และ บริษัท พรีเมียร์ แคนนิ่ง อินดัสตรี้ จำกัด มีการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์บนหลังคา ตั้งแต่ปี 2560 ขยายการติดตั้งจนเต็มพื้นที่หลังคาโรงงานผลิต จนถึงปี 2564 เพื่อลดการใช้น้ำมันและถ่านหินที่สร้างก๊าซพิษ ส่งผลต่อปัญหาโลกร้อน และป้องกันการประสบปัญหาภาวะขาดแคลนน้ำมันในอนาคต
- ผลลัพธ์ คือ กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ 1,604.56 MWh/ ปี ช่วยลดต้นทุนค่าไฟต่อปี 7.54 ล้านบาท
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1,112.44 tonCO2e/ ปี
2. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
นำน้ำกลับมาใช้ใหม่
- บริษัท พรีเมียร์ แคนนิ่ง อินดัสตรี้ จำกัด มีการบริหารจัดการนำน้ำทิ้งหลังการบำบัดที่มีคุณภาพมาตรฐานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น นำมารดน้ำต้นไม้ ล้างลานรับวัตถุดิบ และบำบัดอากาศโดยลดเขม่าควันจากการเผาไหม้ของ Boiler
- สามารถนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้ถึง 41,720 ลบ.ม. / ปี คิดเป็น 50% ของปริมาณน้ำใช้ทั้งหมด
- ลดต้นทุนค่าน้ำประปา 709,240 บาท / ปี
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 33.16 tonCO2e / ปี
3. การบริหารจัดการของเสียในกระบวนการผลิต
โครงการผลิตปุ๋ยจากของเสียในกระบวนการผลิต
- บริษัท พี เอม ฟูด จำกัด ได้มีจัดทำโครงการผลิตปุ๋ยจากของเสียในกระบวนการผลิตและเศษอาหารจากโรงอาหาร โดยใช้เครื่องกำจัดขยะเศษอาหาร Composter สามารถผลิตปุ๋ยได้เดือนละ 2,000 กิโลกรัม เพื่อแจกจ่ายให้กับพนักงานที่มีพื้นที่ นำไปใช้ปลูกผักสวนครัว
- ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ปุ๋ยเคมี และแจกจ่ายให้หน่วยงานภายนอกรอบๆ ชุมชน ที่มีแปลงเกษตรปลูกพืชสวนครัวอีกด้วย
- ผลลัพธ์ ลดของเสียจากกระบวนการผลิตและจากโรงอาหาร ไปสู่ชุมชน ปริมาณ 24 ตัน / ปี คิดเป็น 100% ของปริมาณของเสียทั้งหมด นำไปผลิตเป็นปุ๋ยได้ 20,098 กก.
- ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมี 313,455 บาท
การผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกกาแฟ
- บริษัท มีวนา จำกัด ได้มีการบริหารจัดการเปลือกกาแฟเชอรี่จากกระบวนการผลิต เพื่อนำมาทำเป็นปุ๋ยหมัด เพื่อกลับคืนสู่ดิน เป็นระบบนิเวศอาหารที่หมุนเวียนอย่างสมดุล
- ผลลัพธ์ เปลือกกาแฟ 972,400 กิโลกรัม นำกลับไปทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ได้ 126, 910 กิโลกรัม
- ลดต้นทุนการซื้อปุ๋ยของเกษตรกร 793,187 บาท
รณรงค์การคัดแยกขยะพลาสติก
- บริษัทฯ ได้ร่วมกับโครงการขยะชุบชีวิตและกลุ่มคนจริงไม่นิ่งดูดาย ในการคัดแยกขยะ รวม 207 กก. ส่งให้วัดจากแดง นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์
- นอกจากนี้ บริษัท พี เอม ฟูด จำกัด ได้มีการคัดแยกขยะรีไซเคิล รวมจำนวน 4,228 กิโลกรัม เพื่อจำหน่ายและนำรายได้มาใช้ในงานกิจกรรมพัฒนาชุมชน รอบพื้นที่โรงงาน
4. การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก
ในปี 2565 บริษัทฯ ได้มีการส่งเสริมและผลักดันการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในหน่วยงาน และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 5% หรือ 55.0168 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (เทียบกับปีฐาน 2564)
นี่ก็เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของเราที่จะร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม มองหาใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมในการใช้พลังงานทดแทน ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และสร้างการมีส่วนร่วมกับพนักงาน คู่ค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับห่วงโซ่คุณค่าในการสร้างความสำเร็จร่วมกันอย่างยั่งยืน